เศรษฐกิจ • ธุรกิจ • AI

เศรษฐกิจไทยปี 2568: แรงขับเคลื่อนจากภาคบริการและเทคโนโลยี ท่ามกลางความท้าทายจากภายนอก

บทวิเคราะห์เศรษฐกิจไทยปี 2568 ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตที่ขับเคลื่อนโดยภาคบริการและเทคโนโลยี AI ในขณะเดียวกันก็เผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ผันผวนและปัญหาเชิงโครงสร้างภายในประเทศ

เศรษฐกิจไทยปี 2568: แรงขับเคลื่อนจากภาคบริการและเทคโนโลยี ท่ามกลางความท้าทายจากภายนอก

ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568

ปัจจัยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

• ภาคการท่องเที่ยว: คาดว่าภาคการท่องเที่ยวจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยคาดว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาประมาณ 39.4 ล้านคน [9] การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ และการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเชิงนิเวศ [21] [10]
• การบริโภคภาคเอกชน: การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง แต่มีแนวโน้มชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า [9] ปัจจัยสนับสนุน ได้แก่ ภาวะตลาดแรงงานที่ยังคงอยู่ในเกณฑ์ดี แรงกดดันเงินเฟ้อที่ลดลง และการปรับตัวขึ้นของรายได้ [11] อย่างไรก็ตาม หนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงอาจเป็นปัจจัยจำกัดการใช้จ่าย [3]
• การลงทุน: การลงทุนภาคเอกชนคาดว่าจะเริ่มเห็นการเติบโตที่เป็นบวก โดยได้รับแรงหนุนจากการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจดิจิทัล รวมถึงการย้ายฐานการผลิตของบางอุตสาหกรรมมายังภูมิภาคอาเซียน [5] การลงทุนภาครัฐก็จะเข้ามามีบทบาทในการสนับสนุนการเติบโตเช่นกัน [12] [11]
• เทคโนโลยีและนวัตกรรม (AI และ Digital Transformation): ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนแปลงสู่ยุคดิจิทัล (Digital Transformation) กำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs [4] [14] [22] รัฐบาลมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลาง AI ในภูมิภาคอาเซียน [4] [17] โดยมีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และโครงการ AI ขนาดใหญ่ [13] [17] นอกจากนี้ SMEs ไทยยังแสดงความเชื่อมั่นและเร่งการลงทุนในเทคโนโลยีเพื่อการบริการลูกค้า [8]

ความท้าทายและความเสี่ยง

• ภาวะเศรษฐกิจโลกและความไม่แน่นอนด้านการค้าระหว่างประเทศ: ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายภาษีของสหรัฐอเมริกา อาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย [6] [19] [3] รวมถึงทำให้การค้าและการลงทุนทั่วโลกรวมถึงในภูมิภาคมีความผันผวนมากขึ้น [6] [5]
• หนี้ครัวเรือนและคุณภาพสินเชื่อ: ระดับหนี้ครัวเรือนที่สูงยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องจับตามอง ซึ่งอาจส่งผลต่อการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชน [3] [9]
• การแข่งขันในตลาดโลก: การสูญเสียความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทยในบางภาคส่วน และแรงกดดันจากสินค้าจากต่างประเทศที่หลั่งไหลเข้ามา อาจส่งผลกระทบต่อภาคการผลิตและส่งออก [9] [10]
• การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากร: การเข้าสู่สังคมสูงวัยของไทยอาจส่งผลกระทบต่อขนาดของตลาดแรงงานและขนาดเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว [19]
• การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิภูมิอากาศ: ปัญหาโลกร้อนและภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นความเสี่ยงทางธุรกิจที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อ GDP ของไทยอย่างมีนัยสำคัญหากไม่มีมาตรการรับมือที่เพียงพอ [18]

แนวโน้มในไตรมาสถัดไป

ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง

• ความผันผวนของเศรษฐกิจโลก และความไม่แน่นอนของนโยบายการค้า
• ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและภัยธรรมชาติ
• ความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรมไทย
• การบริหารจัดการหนี้ครัวเรือนและหนี้สาธารณะ
• การพัฒนาและการนำ AI มาปรับใช้ในภาคธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ

สรุป

เศรษฐกิจไทยในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง โดยมีภาคบริการและการท่องเที่ยวเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก ขณะที่เทคโนโลยี AI และ Digital Transformation จะเป็นปัจจัยสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ความท้าทายจากปัจจัยภายนอก เช่น ความไม่แน่นอนทางการค้าระหว่างประเทศ และปัญหาโครงสร้างภายในประเทศ ยังคงเป็นประเด็นที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด.