การลงทุน • เศรษฐกิจ • ธุรกิจ • AI
ภาพรวมตลาดการเงินโลกปี 2568: จุดเปลี่ยนท่ามกลางความไม่แน่นอนและโอกาสการลงทุนใหม่
ตลาดการเงินโลกในปี 2568 กำลังเผชิญกับการชะลอตัวของการเติบโต ท่ามกลางความไม่แน่นอนของนโยบายและการค้าระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มการลงทุนใหม่ ๆ เช่น AI พลังงานหมุนเวียน และตลาดเกิดใหม่บางแห่ง ยังคงนำเสนอโอกาสที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนที่พร้อมปรับตัว
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
AI ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน: โอกาสการลงทุน เทรนด์สีเขียว และภูมิทัศน์กฎหมายที่กำลังเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของตลาดการเงินโลกในปี 2568 (2025) นั้น กำลังเผชิญกับจุดเปลี่ยนที่สำคัญ ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของนโยบายและการเพิ่มขึ้นของความไม่แน่นอน [3]. รายงาน World Economic Outlook ฉบับเดือนเมษายน 2568 คาดการณ์ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัวลงจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งมีลักษณะของการเติบโตที่สม่ำเสมอแต่ยังไม่โดดเด่น [3]. ปัจจัยหลักที่กดดันการเติบโตได้แก่ การขยายตัวของความตึงเครียดทางการค้าและการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่คาดเดาได้ยาก [3, 4, 5].
สิ่งหนึ่งที่น่าจับตามองคือ ท่าทีของนโยบายการเงินและการคลังทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกา ที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยอาจดำเนินไปอย่างระมัดระวังท่ามกลางความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ [1]. ขณะเดียวกัน การใช้นโยบายการคลัง เช่น การลดภาษีในสหรัฐฯ การใช้จ่ายด้านกลาโหมและโครงสร้างพื้นฐานในยุโรป และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน อาจเข้ามาช่วยพยุงการเติบโตในระยะกลาง [1].
ในส่วนของตลาดตราสารหนี้ คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นและความไม่แน่นอนของนโยบายการเงินอาจผลักดันให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มของพันธรัฐของประเทศพัฒนาแล้ว [1]. อย่างไรก็ตาม ตราสารหนี้กลุ่ม High Yield และตลาดเกิดใหม่บางแห่งอาจยังคงเสนอโอกาสในการกระจายความเสี่ยงและผลตอบแทนที่น่าสนใจ [1].
สำหรับตลาดหุ้น การปรับตัวเข้าสู่โลกหลังยุคโลกาภิวัตน์ (Post-Globalization) กำลังเปิดโอกาสในการลงทุนที่กว้างขวางขึ้น ทั้งในตลาดสหรัฐฯ เองและไปยังภูมิภาคอื่น ๆ [1]. หุ้นคุณค่า (Value Stocks) โดยเฉพาะในกลุ่มพลังงานและวัสดุ มีการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจกว่าหุ้นเติบโต (Growth Stocks) และอาจทำผลงานได้ดีในสภาวะเงินเฟ้อ [1]. ขณะเดียวกัน ตลาดเกิดใหม่บางแห่ง เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และอาร์เจนตินา ก็มีศักยภาพในการเติบโต [1, 2].
นอกจากนี้ แนวโน้มการลงทุนที่สำคัญในปี 2568 ยังรวมถึงการเติบโตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และนวัตกรรมดิจิทัล ซึ่งสร้างโอกาสการลงทุนในศูนย์ข้อมูล เซมิคอนดักเตอร์ และคลาวด์คอมพิวติ้ง [2, 10, 11]. ภาคพลังงานหมุนเวียนและความยั่งยืนยังคงเป็นเมกะเทรนด์ที่สำคัญ [2, 10]. ภาคการเงินและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าจับตามอง [2].
อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงด้านการเมืองและความขัดแย้งทางการค้าระหว่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและการเงินทั่วโลก [3, 5, 4].
การกระจายความเสี่ยงไปสู่สินทรัพย์ที่หลากหลาย เช่น อสังหาริมทรัพย์และสินค้าโภคภัณฑ์ อาจเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ [1]. การลงทุนในตลาดทางเลือก (Alternative Investments) โดยเฉพาะในภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ซึ่งเผชิญปัญหาขาดแคลนที่อยู่อาศัย ก็เป็นอีกหนึ่งโอกาสที่น่าสนใจ [9].
ให้คะแนนความน่าสนใจในการลงทุน: 7/10
เหตุผล: ตลาดการเงินโลกในปี 2568 มีทั้งโอกาสและความท้าทายที่ซับซ้อน การเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและภูมิรัฐศาสตร์เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด การกระจายความเสี่ยงและการเลือกสรรสินทรัพย์ที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการแสวงหาผลตอบแทนท่ามกลางความผันผวน.