การลงทุน • เศรษฐกิจ • เทคโนโลยี • ธุรกิจ
ไทย's Investment Boom: Digital Transformation and Future Industries Leading the Way in 2025
Thailand's investment landscape in 2025 is characterized by a significant surge in applications, particularly in the digital sector, driven by advancements in data centers, AI, and cloud services. Government initiatives and a strategic focus on future industries are attracting both foreign and domestic capital, positioning Thailand as a key regional hub for technology and innovation.
Thailand's Investment Boom: Digital Transformation and Future Industries Leading the Way in 2025
การลงทุนในประเทศไทยช่วงปี 2568 (2025) กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นที่น่าจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนของเทคโนโลยีดิจิทัลและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ซึ่งเป็นผลมาจากการผลักดันของภาครัฐและศักยภาพในการดึงดูดเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก. การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลและนโยบายที่ส่งเสริมการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้กลายเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างก้าวกระโดด.
การเติบโตที่น่าประทับใจของภาคอุตสาหกรรมดิจิทัล
ข้อมูลจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ชี้ให้เห็นว่า ในช่วงครึ่งแรกของปี 2568 (H1 2025) คำขอรับการส่งเสริมการลงทุนพุ่งสูงขึ้นถึง 139% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.06 ล้านล้านบาท (ประมาณ 32.5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ). ตัวเลขนี้ได้รับแรงหนุนหลักจากการลงทุนในภาคดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นถึง 20 เท่า คิดเป็น 522,600 ล้านบาท. โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ธุรกิจศูนย์ข้อมูล (Data Center) ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม ดึงดูดมูลค่าการลงทุนรวม 521,200 ล้านบาท จาก 28 โครงการ. แนวโน้มนี้สอดคล้องกับการลงทุนของบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก เช่น Amazon Web Services, Google, Microsoft และ Huawei ที่ได้เริ่มเข้ามาลงทุนในประเทศไทยแล้ว.
นอกจากนี้ ภาคส่วนอื่นๆ ในกลุ่มดิจิทัล เช่น บริการคลาวด์ และการพัฒนาซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มดิจิทัล ก็มีการยื่นขอส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรม.
อุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่น่าจับตา
รัฐบาลไทยได้กำหนด 5 อุตสาหกรรมแห่งอนาคตเพื่อดึงดูดการลงทุนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ได้แก่:
- ศูนย์ข้อมูล (Data Centers): คาดการณ์การลงทุนจะสูงถึง 7.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ตั้งแต่ปี 2567-2570.
- ปัญญาประดิษฐ์ (AI): มีเป้าหมายมูลค่าตลาด 1.14 แสนล้านบาทในปี 2573 และ 1.82 แสนล้านบาทในปี 2578.
- ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs): สอดคล้องกับกลยุทธ์ "30@30" ที่ตั้งเป้าให้ 30% ของการผลิตรถยนต์เป็นยานยนต์ที่ไม่มีมลพิษ (ZEVs) ภายในปี 2573.
- เกษตรแม่นยำและเทคโนโลยีอาหาร (Precision Agriculture and Food Technology): เป็นภาคส่วนที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยเฉพาะการแปรรูปอาหารเพื่อส่งออก.
- อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเซมิคอนดักเตอร์: BOI มีเป้าหมายส่งเสริมเทคโนโลยีรุ่นใหม่ โดยเน้นเซมิคอนดักเตอร์.
การลงทุนในภาคส่วนเหล่านี้ได้รับการสนับสนุนจากมาตรการส่งเสริมของ BOI ทั้งทางด้านการเงินและไม่ใช่การเงิน รวมถึงการปรับปรุงกฎหมายและกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ.
ปัจจัยขับเคลื่อนการลงทุน
ปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย ได้แก่:
- นโยบายสนับสนุนจากภาครัฐ: การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการปรับปรุงกระบวนการออกใบอนุญาตที่คล่องตัว.
- ศักยภาพทางภูมิศาสตร์: การเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียน ทำให้ไทยเป็นจุดเชื่อมโยงที่สำคัญ.
- การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน: โดยเฉพาะในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ขับเคลื่อนด้วยระบบดิจิทัล.
- การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค: การให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและไลฟ์สไตล์ดิจิทัล.
- ความเชื่อมั่นของนักลงทุน: ทั้งนักลงทุนต่างชาติและในประเทศที่มีต่อศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย.
มุมมองนักลงทุน
นักลงทุน VI มองว่า หัวใจสำคัญของการลงทุนในยุคนี้ คือการมองหาโอกาสในอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพในการเติบโตระยะยาว ควบคู่ไปกับการประเมินความเสี่ยงอย่างรอบคอบ การที่ประเทศไทยมุ่งเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีดิจิทัลและอุตสาหกรรมแห่งอนาคต ถือเป็นทิศทางที่ถูกต้องในการสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันในระยะยาว
สิ่งที่นักลงทุนหน้าใหม่มักพลาดคือ การมองข้ามปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจ หรือการลงทุนตามกระแสโดยขาดการวิเคราะห์ที่เพียงพอ สิ่งสำคัญคือการศึกษาข้อมูลเชิงลึกและเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุนอย่างแท้จริง
“การลงทุนคือการย้ายเงินจากคนที่ใจร้อน ไปสู่คนที่ใจเย็น”
การเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการลงทุนในอุตสาหกรรมแห่งอนาคต จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในการลงทุนในปี 2568 และปีต่อๆ ไป.