เทคโนโลยี • ธุรกิจ • เศรษฐกิจ • AI

AI มาแรง! ไทยลุย 'Green Tech' ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน รับเทรนด์โลก 2025

AI ไม่ใช่แค่เรื่องหุ่นยนต์อีกต่อไป แต่กำลังกลายเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจยั่งยืนในไทย! รายงานล่าสุดชี้ชัดว่าธุรกิจไทยกำลังนำ AI มาใช้เพื่อลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ และรักษ์โลก สอดรับกับเทรนด์ Green Tech ระดับเอเชียที่กำลังมาแรงสุดๆ แต่เอ๊ะ...งานนี้มีทั้งโอกาสและความท้าทายอะไรบ้าง? เราจะพาไปเจาะลึกกัน!

AI ตัวจริง! ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ แต่คือ 'พระเอก' ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืนในไทย!

ไทยไปไหน? สู่เทรนด์ 'Green Tech' ระดับเอเชีย

จากการสำรวจผู้บริหารระดับสูงในเอเชีย พบว่า 76% ของธุรกิจมองว่าเทคโนโลยีดิจิทัลคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาที่ยั่งยืน [7]. แต่ก็แอบมีข้อกังวลอยู่เหมือนกันนะ เพราะ 61% ยังกลัวว่าเทคโนโลยีพวกนี้จะกินไฟเยอะเกินไป [7].

AI ช่วยธุรกิจยั่งยืนได้ยังไง? มาดูกัน!

• ประหยัดพลังงานแบบสุดๆ: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการใช้พลังงานแบบเรียลไทม์ แล้วปรับการทำงานให้เหมาะสมที่สุด ทำให้ประหยัดพลังงานไปได้เยอะมากๆ [3]. อย่าง EGAT ก็เอา AI มาช่วยคาดการณ์พลังงานหมุนเวียน แล้วก็บริหารจัดการโครงข่ายไฟฟ้าให้เสถียรขึ้นด้วยนะ [14].
• จัดการ Supply Chain ให้ 'เขียว' ขึ้น: AI ช่วยวางแผนเส้นทางการขนส่งให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือช่วยหาแหล่งวัตถุดิบที่ยั่งยืนมากขึ้น [3, 4]. WHA Group ก็ใช้ AI ในแพลตฟอร์ม 'Green Logistics' ช่วยวางแผนเส้นทางรถ EV ให้ประหยัดทั้งเงินและลดมลพิษเลย [14].
• ลดขยะแบบชาญฉลาด: AI ช่วยวิเคราะห์รูปแบบการเกิดขยะ ทำให้เราวางแผนจัดการได้ดีขึ้น หรือแม้แต่ช่วยพัฒนากระบวนการรีไซเคิลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น [3, 4].
• การตัดสินใจที่แม่นยำ: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเยอะๆ เพื่อให้เราตัดสินใจเรื่องการบริหารทรัพยากรได้อย่างถูกต้อง ทำให้ธุรกิจเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น [5].
• รายงาน ESG ที่เป๊ะปัง: AI ช่วยรวบรวม วิเคราะห์ และสรุปข้อมูลด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) ทำให้การรายงานมีความถูกต้อง แม่นยำ และโปร่งใส [5].

โอกาสและความท้าทายของ AI ในธุรกิจไทย

• ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพ: AI ช่วยทำงานซ้ำๆ แทนคน ทำให้ต้นทุนลดลง แถมยังแม่นยำขึ้นด้วย [9]. อย่างภาคการผลิตในไทยก็เอา AI มาช่วยเรื่องการพยากรณ์ความต้องการสินค้า ลดการหยุดชะงักของเครื่องจักร หรือแม้แต่การจัดการความปลอดภัยในที่ทำงาน [15].
• สร้างโมเดลธุรกิจใหม่: AI ทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ๆ ที่น่าสนใจ อย่าง 'vibe marketing' ที่ AI ตัวเดียวทำงานได้เท่าคน 10 คน [9].
• SMEs ก็ใช้ AI ได้: เดี๋ยวนี้มีพวก Small Language Models (SLMs) และ Open-source tools ทำให้ SMEs สามารถเข้าถึง AI ได้ง่ายขึ้นในราคาที่จับต้องได้ [9].

• เงินลงทุนเริ่มต้น: การนำ AI มาใช้ในองค์กรอาจจะต้องมีการลงทุนเริ่มต้นที่สูงพอสมควร [9].
• กฎระเบียบ: การปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องใส่ใจ [9].
• ขาดบุคลากร: ยังมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อีกมากในตลาดแรงงาน [9].
• ต้นทุนพลังงานของ AI: อันนี้ก็เป็นประเด็นที่ต้องจับตามอง เพราะการเทรนโมเดล AI ใหญ่ๆ ก็กินพลังงานมหาศาล แถมยังเพิ่มขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) อีกด้วย [14, 16].

สรุปแบบเพื่อนเล่าให้ฟัง

โดยรวมแล้ว AI เป็นเครื่องมือทรงพลังมากที่จะช่วยให้ธุรกิจไทยก้าวสู่ความยั่งยืนได้จริง ทั้งเรื่องลดต้นทุน ประหยัดพลังงาน ลดขยะ หรือแม้แต่การตัดสินใจที่ดีขึ้น [2, 3, 4, 5, 6]. แถมยังสอดรับกับเทรนด์ 'Green Tech' ที่กำลังมาแรงทั่วโลกด้วย [7].

แต่ก็ต้องไม่ลืมเรื่อง 'Green AI' หรือการพัฒนาและใช้ AI อย่างยั่งยืนด้วยนะ เพราะ AI เองก็มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน [14, 16]. ถ้าไทยอยากจะคว้าโอกาสนี้ไว้ ก็ต้องเร่งพัฒนาระบบพลังงานสะอาดและโครงสร้างพื้นฐานที่เกี่ยวข้องควบคู่กันไปด้วย [16].

รุ่นนี้ต้องจัด! ใครทำธุรกิจอยู่ ลองศึกษาเรื่อง AI มาปรับใช้ดูนะ รับรองว่าธุรกิจจะ 'ยั่งยืน' และ 'ทันสมัย' ขึ้นแน่นอน!

#AI #ธุรกิจยั่งยืน #เทคโนโลยีสีเขียว #GreenTech #Thailand40 #ESG #SustainableBusiness #GreenAI