AI • ธุรกิจ • เทคโนโลยี
SMEs ไทย ยุค AI: 40% ก้าวไปแล้ว อีก 60% จะตามทันได้ไง? (พร้อมสูตรสำเร็จ!)
ผู้เชี่ยวชาญเตือน! ยุค AI มาถึงแล้ว 40% ของ SMEs ไทย เริ่มนำ AI มาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันแล้ว แล้วอีก 60% ที่ยังไม่เริ่ม จะปรับตัวอย่างไร? บทความนี้มีคำตอบ พร้อมชี้เป้าความท้าทาย และโอกาสในการนำ AI มาใช้เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน.
SMEs ไทย ยุค AI: 40% ก้าวไปแล้ว อีก 60% จะตามทันได้ไง? (พร้อมสูตรสำเร็จ!)
พี่น้องผู้ประกอบการ SMEs ครับ! ตอนนี้กระแส AI (Artificial Intelligence) หรือ ปัญญาประดิษฐ์ กำลังมาแรงแซงโค้งจริงๆ ไม่ใช่แค่บริษัทใหญ่ๆ แล้วนะ แต่ SMEs อย่างเราๆ ก็ต้องรีบปรับตัวตามให้ทัน ไม่งั้นอาจจะตกขบวนเอาได้
สถานการณ์ปัจจุบัน: 40% ของ SMEs ไทย ใช้ AI แล้ว!
จากข้อมูลล่าสุด มี SMEs ไทยถึง 40.4% ที่เริ่มนำ AI มาใช้ในธุรกิจแล้ว [2] เรียกได้ว่ากำลังก้าวเข้าสู่ยุค "AI-first" อย่างเต็มตัวเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญมองว่า AI มาถูกเวลามาก ช่วยเพิ่ม Productivity ให้ SMEs ของเราได้อย่างมหาศาล [2] ไม่ว่าจะเป็นการเขียนโค้ด พัฒนาซอฟต์แวร์ หรือวิเคราะห์ข้อมูลการขาย AI ทำได้หมดครับ [2]
แล้วอีก 60% ที่ยังไม่เริ่มล่ะ?
แน่นอนว่ายังมี SMEs อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังลังเล หรืออาจจะยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นยังไง ปัญหาหลักๆ ที่พบก็คือ:
- ขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ: นี่เป็นปัญหาใหญ่เลย เพราะ AI ต้องการคนที่มีความรู้ความเข้าใจมาควบคุมและใช้งาน [2, 3]
- ต้นทุนการลงทุน: การนำ AI มาใช้ อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่สูงสำหรับ SMEs บางราย [4]
- ความรู้ความเข้าใจ: หลายคนยังไม่รู้ว่า AI คืออะไร ทำอะไรได้บ้าง และจะนำมาใช้กับธุรกิจตัวเองได้อย่างไร [5, 7]
- ความต้านทานทางวัฒนธรรม: บางธุรกิจที่เป็นธุรกิจครอบครัว ผู้บริหารรุ่นเก่ายังไม่เปิดใจรับเทคโนโลยีใหม่ๆ [5, 7]
- การจัดการข้อมูล: AI ต้องการข้อมูลที่มีคุณภาพเพื่อนำมาประมวลผล ถ้าข้อมูลไม่ดี AI ก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ [2]
แล้ว SMEs ควรทำอย่างไรให้ก้าวทัน?
ไม่ต้องกังวลไปครับ! ในฐานะพี่ที่อยากเห็นน้องๆ SMEs เติบโต ผมมีคำแนะนำดีๆ มาฝาก:
1. เริ่มต้นจากสิ่งเล็กๆ และตรงจุด
ไม่ต้องรีบร้อนนำ AI มาใช้กับทุกอย่าง ลองมองหากระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อน หรือส่วนที่ AI สามารถเข้ามาช่วยลดภาระงานได้ เช่น:
- การตอบคำถามลูกค้า: ใช้ Chatbot มาช่วยตอบคำถามเบื้องต้น [11]
- การวิเคราะห์ข้อมูล: ใช้ AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลการขาย หรือพฤติกรรมลูกค้า [3, 10]
- การสร้างคอนเทนต์: ใช้ AI ช่วยร่างบทความ โพสต์โซเชียล หรือสคริปต์วิดีโอ [11]
2. พัฒนาทักษะบุคลากร
การ Upskill และ Reskill พนักงานเป็นเรื่องสำคัญมากครับ! หลายองค์กรกำลังลงทุนกับการฝึกอบรมด้าน AI [3] หรือจะลองหาคอร์สออนไลน์ฟรีที่เกี่ยวกับ AI Skills ก็มีเยอะแยะเลย [9] การมีความรู้ความเข้าใจใน AI จะช่วยให้พนักงานทำงานร่วมกับ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือฟรีและ Open-source
เดี๋ยวนี้มีเครื่องมือ AI ฟรี หรือแบบ Open-source ที่มีคุณภาพดีๆ ออกมาเยอะมากครับ [3] ลองศึกษาและนำมาทดลองใช้ดูก่อนได้ ไม่จำเป็นต้องลงทุนสูงเสมอไป
4. มองหาการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน
ภาครัฐเองก็มีนโยบายและโครงการสนับสนุน SMEs ในการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและ AI มาใช้ [3, 6] รวมถึงสถาบันการเงินต่างๆ ที่พร้อมให้คำปรึกษา และมีสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษ ลองศึกษาดูนะครับ
5. ปรับ Mindset ให้พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
หัวใจสำคัญของการนำ AI มาใช้คือ "Mindset" ครับ! เราต้องพร้อมที่จะเรียนรู้ ทดลอง และปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน [5] มองว่า AI คือเครื่องมือที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพ ไม่ใช่สิ่งที่น่ากลัว
AI กับโอกาสใหม่ๆ ในธุรกิจ
- เพิ่ม Productivity และลดต้นทุน: AI ช่วยทำงานซ้ำๆ ได้เร็วและแม่นยำกว่าคน ลดการพึ่งพาแรงงาน และลดข้อผิดพลาด [2, 3]
- สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน: AI ช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก ทำให้ตัดสินใจทางธุรกิจได้ดีขึ้น [3]
- ตอบสนองลูกค้าได้ดีขึ้น: AI ช่วยสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล (Personalization) และให้บริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง [11]
- เปิดโมเดลธุรกิจใหม่: AI อาจนำไปสู่การสร้างสรรค์สินค้า บริการ และรูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ที่เราคาดไม่ถึง
บทสรุป
การนำ AI มาใช้ไม่ใช่เรื่องของอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของ "ปัจจุบัน" ครับ SMEs ไทยต้องรีบปรับตัวเพื่อความอยู่รอดและเติบโตในยุคดิจิทัล การเริ่มต้นอาจจะดูยาก แต่ถ้าเรามีแผนที่ดี เรียนรู้จากผู้มีประสบการณ์ และใช้ประโยชน์จากทรัพยากรที่มีอยู่ โอกาสในการนำ AI มาขับเคลื่อนธุรกิจให้ก้าวหน้าก็อยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอนครับ! สู้ๆ ครับน้องๆ SMEs ทุกคน!