AI • การลงทุน • ธุรกิจ • เทคโนโลยี
AI ในไทยปี 2025: 'Startup' กระแสแรง ดึงดูด VC ท่วมท้น หรือแค่ฟองสบู่?
ประเด็นสำคัญที่ต้องวิเคราะห์คือ ท่ามกลางการลงทุนใน AI ที่พุ่งสูงในประเทศไทย มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงกระแสที่อาจนำไปสู่ฟองสบู่? บทความนี้จะเจาะลึกแนวโน้มการลงทุนในสตาร์ทอัพ AI ของไทยในปี 2025 โดยพิจารณาจากข้อมูลล่าสุด การระดมทุนของสตาร์ทอัพ AI ที่ได้รับความสนใจจาก Venture Capital (VC) จำนวนมาก รวมถึงปัจจัยขับเคลื่อนและโอกาสที่ซ่อนอยู่.
AI ในไทยปี 2025: 'Startup' กระแสแรง ดึงดูด VC ท่วมท้น หรือแค่ฟองสบู่?
ประเด็นสำคัญที่ต้องวิเคราะห์คือ ท่ามกลางการลงทุนใน AI ที่พุ่งสูงในประเทศไทย มีสัญญาณบ่งชี้ถึงการเติบโตอย่างแท้จริง หรือเป็นเพียงกระแสที่อาจนำไปสู่ฟองสบู่? บทความนี้จะเจาะลึกแนวโน้มการลงทุนในสตาร์ทอัพ AI ของไทยในปี 2025 โดยพิจารณาจากข้อมูลล่าสุด การระดมทุนของสตาร์ทอัพ AI ที่ได้รับความสนใจจาก Venture Capital (VC) จำนวนมาก รวมถึงปัจจัยขับเคลื่อนและโอกาสที่ซ่อนอยู่.
ภาพรวมตลาดสตาร์ทอัพ AI ในไทยปี 2025: ตัวเลขที่น่าจับตา
ข้อมูลล่าสุดจาก Tracxn ชี้ให้เห็นถึงภาพรวมที่น่าสนใจของตลาดสตาร์ทอัพไทยในปี 2025 โดยช่วงครึ่งแรกของปี 2025 การระดมทุนในสตาร์ทอัพไทยทั้งหมดอยู่ที่ 11.2 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 4 ดีล ซึ่งลดลงอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สามารถระดมทุนได้ถึง 297 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จาก 19 ดีล [3]. อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเฉพาะกลุ่มสตาร์ทอัพ AI ตัวเลขกลับสวนทางกัน โดยข้อมูลจาก Tracxn เช่นกัน ระบุว่าตลอด 10 ปีที่ผ่านมา บริษัท AI ในไทยระดมทุนไปแล้วกว่า 138 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และปี 2024 ถือเป็นปีที่ทำสถิติสูงสุด โดยระดมทุนได้กว่า 60 ล้านเหรียญสหรัฐฯ [6].
Spacely AI: ตัวอย่างสตาร์ทอัพ AI ที่ได้รับความสนใจ
หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนของสตาร์ทอัพ AI ที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนคือ Spacely AI ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพไทยที่พัฒนา Generative AI สำหรับสถาปัตยกรรมและการออกแบบภายใน ได้รับเงินทุน Seed Round มูลค่า 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นำโดย PropTech Farm Fund III [7, 9]. การระดมทุนครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยเร่งการพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายตลาดของ Spacely AI เท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในศักยภาพของเทคโนโลยี AI ที่สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มในภาคธุรกิจเฉพาะทางได้.
ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตและโอกาสการลงทุน
1. นโยบายภาครัฐและแผนพัฒนา: รัฐบาลไทยมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลักดันประเทศสู่การเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีเป้าหมายที่จะพัฒนาบุคลากรด้าน AI ให้มีความรู้ความสามารถ [2]. แผน National AI Strategy ตั้งแต่ปี 2022-2027 เป็นแผนงานที่ครอบคลุมเพื่อการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี [12]. นอกจากนี้ การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้าน Data Center ก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญ โดยคาดการณ์ว่าภาคเอกชนจะลงทุนกว่า 500,000 ล้านบาท ในช่วงปี 2026-2027 เพื่อรองรับความต้องการของ AI [20].
2. การยอมรับ AI ในภาคธุรกิจ: ผลสำรวจชี้ว่า 92% ของพนักงานออฟฟิศในไทยมีการนำ AI มาใช้ในการทำงาน ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลก [4]. ตัวอย่างเช่น ในภาคการเงิน ธนาคาร Kasikornbank (KBTG) ใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกงและให้บริการลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล [10, 19]. ภาคค้าปลีกก็เริ่มนำ AI มาใช้ เช่น Gourmet Market ที่ใช้ Smart Carts เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อของ [10].
3. การพัฒนาบุคลากร: รัฐบาลมีแผนที่จะพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะด้าน AI อย่างน้อย 600,000 คนภายในปี 2025 [2]. รวมถึงการลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะ AI จำนวน 30,000 คน ภายในปี 2027 [4].
4. เทคโนโลยีเกิดใหม่: การบูรณาการเทคโนโลยีอย่าง Agentic AI และ Quantum Computing กับ AI กำลังเร่งการวิเคราะห์ข้อมูล สร้างโอกาสใหม่ๆ ในอุตสาหกรรมที่ต้องอาศัยการคำนวณที่ซับซ้อน เช่น การเงิน การดูแลสุขภาพ และโลจิสติกส์ [10].
ความท้าทายและข้อควรระวัง
แม้ว่าแนวโน้มการลงทุนใน AI ของไทยจะสดใส แต่ก็ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณา เช่น:
- การแข่งขัน: ประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนอย่างสิงคโปร์ เวียดนาม และมาเลเซีย ก็กำลังเร่งพัฒนานำ AI มาใช้เช่นกัน [5].
- ช่องว่างทักษะ: แม้จะมีความพยายามในการพัฒนาบุคลากร แต่ความต้องการผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังคงมีสูง [4].
- การประเมินมูลค่า: การเติบโตอย่างรวดเร็วของสตาร์ทอัพ AI อาจนำไปสู่การประเมินมูลค่าที่สูงเกินจริง (Overvaluation) ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่นักลงทุนควรตระหนัก.
สรุป
ปี 2025 เป็นปีที่น่าจับตาสำหรับวงการ AI และสตาร์ทอัพในประเทศไทย การลงทุนจาก Venture Capital ที่ไหลเข้ามาในกลุ่มเทคโนโลยี AI สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของเทคโนโลยีนี้ อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่รวดเร็วก็มาพร้อมกับความท้าทายและความเสี่ยงที่นักลงทุนและผู้ประกอบการต้องบริหารจัดการ การวิเคราะห์อย่างรอบด้าน ทั้งในด้านนโยบายภาครัฐ การยอมรับของภาคธุรกิจ การพัฒนาบุคลากร และเทคโนโลยีเกิดใหม่ จะเป็นกุญแจสำคัญในการประเมินว่าการเติบโตของ AI ในไทยเป็นเพียงกระแส หรือเป็นการลงทุนที่ยั่งยืนและมีอนาคต.