คำเตือน: ภัยไซเบอร์คุกคามสถาบันการเงินไทย! มิจฉาชีพยุคใหม่ ใช้ AI เป็นอาวุธ

คำเตือน: ภัยไซเบอร์คุกคามสถาบันการเงินไทย! มิจฉาชีพยุคใหม่ ใช้ AI เป็นอาวุธ

วงการการเงินไทยกำลังเผชิญหน้ากับคลื่นอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น กลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า 'NDT SEC' ได้เปิดเผยรายชื่อ 9 สถาบันการเงินในไทยที่ตกเป็นเป้าหมายภายใต้แคมเปญ 'OpThailand' ชี้ให้เห็นถึงภัยคุกคามที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี AI ที่มิจฉาชีพนำมาใช้เพื่อยกระดับการโจมตีให้แนบเนียนยิ่งขึ้น ทั้งฟิชชิ่งและมัลแวร์ดูดข้อมูลทางการเงิน บทความนี้จะเจาะลึกถึงภัยคุกคามเหล่านี้ พร้อมชี้แจงแนวทางการป้องกัน.

คำเตือน: ภัยไซเบอร์คุกคามสถาบันการเงินไทย! มิจฉาชีพยุคใหม่ ใช้ AI เป็นอาวุธ


กรุงเทพฯ, ประเทศไทย - วงการการเงินไทยกำลังเผชิญหน้ากับคลื่นอาชญากรรมไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมิจฉาชีพยุคใหม่ได้นำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาเป็นเครื่องมือหลักในการโจมตี ทำให้การตรวจจับและป้องกันยากยิ่งขึ้น ข้อมูลล่าสุดจากรายงานด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์ที่น่ากังวลนี้ และความจำเป็นเร่งด่วนในการเสริมสร้างมาตรการป้องกันให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

กลุ่มแฮกเกอร์ 'NDT SEC' และปฏิบัติการ 'OpThailand'


ภัยคุกคามล่าสุดที่สร้างความตื่นตระหนกคือการปรากฏตัวของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ใช้ชื่อว่า 'NDT SEC' ซึ่งได้เผยแพร่รายชื่อสถาบันการเงินในประเทศไทยจำนวน 9 แห่งบนดาร์กเว็บ โดยอ้างว่าเป็นเป้าหมายภายใต้แคมเปญ 'OpThailand' [6] แม้ว่าสถาบันการเงินที่ถูกระบุชื่อจะยังไม่ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการ แต่การกระทำดังกล่าวบ่งชี้ถึงเจตนาที่ชัดเจนของกลุ่มอาชญากรไซเบอร์ในการมุ่งเป้าไปที่ภาคการเงินของไทย [6]

สถาบันการเงินที่ตกเป็นข่าวว่าตกเป็นเป้าหมายประกอบด้วย:

  • Krungthai Bank
  • Kasikorn Bank
  • Siam Commercial Bank
  • Government Savings Bank
  • Bank of Ayudhya
  • Thai Military Bank
  • Land & Houses Bank
  • United Overseas Bank
  • Cimb Bank [6]

AI: ดาบสองคมในสงครามไซเบอร์


สิ่งที่น่ากังวลเป็นพิเศษคือการที่อาชญากรไซเบอร์ใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อยกระดับการโจมตีให้แนบเนียนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น [9, 10] AI ถูกนำมาใช้ในการสร้าง Phishing Scams ที่มีความซับซ้อนสูงขึ้น เช่น การใช้ Deepfake Voices และเนื้อหาที่สร้างโดย AI ทำให้ผู้คนทั่วไปยากที่จะแยกแยะระหว่างของจริงและของปลอม [9] นอกจากนี้ AI ยังช่วยให้สามารถสร้างเว็บไซต์ปลอมที่เหมือนจริงได้อย่างรวดเร็ว เพื่อหลอกลวงผู้ใช้งานให้เปิดเผยข้อมูลทางการเงินที่ละเอียดอ่อน เช่น รหัสผ่าน ข้อมูลบัตรเครดิต หรือข้อมูลการเข้าสู่ระบบธนาคาร [8, 11]

รายงานจาก Check Point Software Technologies ระบุว่า การโจมตีทางไซเบอร์ในไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกถึง 70% โดยเฉพาะ Phishing Scams และ Banking Malware [9] ซึ่งมีอัตราการติดมัลแวร์สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกอย่างมีนัยสำคัญ [9] ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยชี้ว่า ลูกค้าธนาคารไทยสูญเสียเงินจากการฉ้อโกงทางการเงินออนไลน์ไปแล้วกว่า 60,000 ล้านบาทในช่วงสองปีที่ผ่านมา [9, 10]

การป้องกันคือเกราะที่ดีที่สุด


วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุดคือ: การสร้างความตระหนักรู้และไม่หลงเชื่อข้อมูลที่น่าสงสัยอย่างเด็ดขาด

  • ตรวจสอบแหล่งที่มาเสมอ: ก่อนคลิกลิงก์หรือให้ข้อมูลส่วนตัว ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือจริง
  • อย่าเปิดเผยข้อมูลสำคัญ: รหัสผ่าน, OTP, หรือข้อมูลส่วนบุคคลทางการเงิน ไม่ควรเปิดเผยผ่านอีเมล, SMS, หรือแชทที่ไม่น่าไว้ใจ
  • อัปเดตซอฟต์แวร์เสมอ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบปฏิบัติการและแอปพลิเคชันต่างๆ ได้รับการอัปเดตเป็นเวอร์ชันล่าสุดเสมอ เพื่อปิดช่องโหว่ที่อาจถูกโจมตี
  • ใช้รหัสผ่านที่แข็งแกร่งและหลากหลาย: หลีกเลี่ยงการใช้รหัสผ่านที่คาดเดาง่าย และไม่ควรใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายๆ บัญชี
  • เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (Two-Factor Authentication - 2FA): เพิ่มชั้นความปลอดภัยอีกระดับในการเข้าสู่ระบบบัญชีต่างๆ

คำเตือน: การลงทุนในระบบรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่จำเป็นเพื่อปกป้องธุรกิจและลูกค้าจากภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ทุกภาคส่วน ทั้งสถาบันการเงิน ภาครัฐ และภาคประชาชน ต้องร่วมมือกันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน