AI • ธุรกิจ • เทคโนโลยี
AI ขับเคลื่อนธุรกิจไทย: การเติบโต ก้าวข้ามสู่ปี 2025
บทความนี้จะเจาะลึกถึงแนวโน้มการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในภาคธุรกิจของไทยที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปี 2025 ธุรกิจไทยกำลังเปลี่ยนจากการทดลองใช้ AI ไปสู่การผสานรวม AI เข้ากับกลยุทธ์หลักเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน พร้อมทั้งสำรวจอุตสาหกรรมที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุด และปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ.
AI ขับเคลื่อนธุรกิจไทย: การเติบโต ก้าวข้ามสู่ปี 2025
เจาะข่าวธุรกิจ
การนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในภาคธุรกิจของไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปี 2025 ถูกคาดการณ์ว่าจะเป็นปีแห่งการพลิกโฉมครั้งสำคัญ ที่ธุรกิจต่างๆ จะเปลี่ยนจากการทดลองใช้ AI ไปสู่การผสานรวมเทคโนโลยีนี้เข้ากับกลยุทธ์หลัก เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มมูลค่าให้กับองค์กรอย่างยั่งยืน
การยอมรับ AI ที่เพิ่มสูงขึ้นในไทย
รายงานล่าสุดจาก AI Governance Center (AIGC) ชี้ให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของการยอมรับ AI ในหมู่ธุรกิจไทย โดยสัดส่วนองค์กรที่นำ AI มาใช้เพิ่มขึ้นจาก 15.2% ในปี 2566 เป็น 17.8% ในปี 2567 และที่น่าสนใจคือ 73.3% ขององค์กรทั้งหมดวางแผนที่จะนำ AI มาใช้ในอนาคต สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักและความพร้อมของภาคธุรกิจต่อเทคโนโลยีดังกล่าว [3, 13]
PwC Thailand ได้คาดการณ์ว่าในปี 2025 ธุรกิจไทยจะก้าวข้ามจากการแสวงหา Use Case ของ AI ไปสู่การใช้ AI เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่ง Vilaiporn Taweelappontong, Asia Pacific Financial Services Consulting Leader และ Consulting Lead Partner ที่ PwC Thailand เน้นย้ำถึงพลังในการเปลี่ยนแปลงของ AI ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน [3]
อุตสาหกรรมที่ AI จะเข้ามาพลิกโฉมในปี 2025
AI มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงหลายอุตสาหกรรมในประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง:
- ภาคการธนาคารและการเงิน: ธนาคารไทยกำลังใช้ AI ในด้านการตรวจจับทุจริต การบริการลูกค้า และการประเมินความเสี่ยง โดยคาดว่าในปี 2025 คุณสมบัติด้านความปลอดภัยที่ขับเคลื่อนด้วย AI เช่น การยืนยันตัวตนด้วย Facial Recognition สำหรับ eKYC และการตรวจสอบธุรกรรมแบบเรียลไทม์ จะกลายเป็นมาตรฐาน [9]
- ภาคค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ: AI ได้เข้ามาปฏิวัติภาคค้าปลีก โดยเฉพาะในอีคอมเมิร์ซ ผ่าน Chatbot และระบบแนะนำสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ (Predictive Analytics) จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกคาดการณ์ความต้องการได้อย่างแม่นยำ ปรับปรุงสินค้าคงคลัง และนำเสนอโปรโมชั่นที่เฉพาะเจาะจงสำหรับผู้บริโภคแต่ละราย [9]
- ภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์: AI กำลังเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ด้วยการจัดการทรัพย์สินอัตโนมัติ การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ และเทคโนโลยีบ้านอัจฉริยะ (Smart Home) รวมถึงการใช้ Voice AI ในการบริหารจัดการผู้ให้เช่า ซึ่งช่วยประหยัดเวลา ลดต้นทุน และทำให้รายการทรัพย์สินเป็นปัจจุบันอยู่เสมอ [9]
- ภาคการท่องเที่ยว: AI มีศักยภาพอย่างมหาศาลในการยกระดับอุตสาหกรรมท่องเที่ยวของไทย ด้วยการนำเสนอประสบการณ์ที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล การใช้ Chatbot สำหรับบริการลูกค้า และระบบแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว การนำ AI มาใช้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการดำเนินงาน และเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวหลังโควิด-19 [18]
การสนับสนุนจากภาครัฐและปัจจัยขับเคลื่อน
ภาครัฐของไทยมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมการนำ AI มาใช้ โดยมีนโยบายที่มุ่งมั่นในการพัฒนาบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI เช่น นโยบาย “MHESI for AI” ที่มีเป้าหมายในการพัฒนาบุคลากรไทยให้มีความรู้ด้าน AI อย่างน้อย 600,000 คนภายในปี 2025 [9] นอกจากนี้ ยังมีแผนพัฒนากลยุทธ์ AI แห่งชาติ (National AI Strategy) ที่ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลาง AI แห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ภายในปี 2027 [9, 24]
Microsoft Thailand ได้เน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการนำ AI มาใช้ โดยกล่าวว่าการไม่ปรับตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าอาจทำให้ไทยพลาดโอกาสสำคัญที่ประเทศอื่น ๆ จะคว้าเอาไว้ [18] การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาบุคลากร และโครงการ AI ขนาดใหญ่ เช่น Thai Large Language Model (ThaiLLM) ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงนี้
ความท้าทายและโอกาส
แม้ว่าแนวโน้มการนำ AI มาใช้จะสดใส แต่ความท้าทายที่สำคัญคือการขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน AI โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs [13] การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลและ AI อย่างเร่งด่วนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
โดยสรุป ปี 2025 จะเป็นปีที่ AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจไทยอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน การเตรียมพร้อมและการปรับตัวเพื่อนำ AI มาใช้จะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จและความสามารถในการแข่งขันในยุคดิจิทัล