AI • ธุรกิจ • เศรษฐกิจ
AI และ Digital Transformation: ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตและความท้าทายในปี 2568
บทวิเคราะห์เจาะลึกถึงบทบาทสำคัญของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) ที่กำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในปี 2568 โดยมุ่งเน้นโอกาสในการเพิ่มผลิตภาพ การเติบโตของ GDP และการปรับตัวของภาคธุรกิจ รวมถึงการรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น
AI และ Digital Transformation: ตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่การเติบโตและความท้าทายในปี 2568
เศรษฐกิจไทยในปี 2568 กำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ โดยมีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล (Digital Transformation) เป็นกลไกสำคัญที่ขับเคลื่อนการเติบโตและความสามารถในการแข่งขัน [3, 11]. รัฐบาลไทยได้ประกาศยุทธศาสตร์ AI แห่งชาติ โดยมีเป้าหมายที่จะผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลาง AI แห่งภูมิภาคอาเซียนภายในปี 2570 [3, 11]. ด้วยการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาบุคลากร และโครงการ AI ขนาดใหญ่ เช่น Thai Large Language Model (ThaiLLM) ภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ทั่วประเทศจึงพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ [3].
บทบาทของ AI ในภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ
AI กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในหลากหลายภาคส่วนของเศรษฐกิจไทย:
- ภาคการผลิต: AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การควบคุมคุณภาพ และการบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์ [16].
- ภาคการเงินและการธนาคาร: ธนาคารไทยกำลังใช้ AI ในการตรวจจับการฉ้อโกง การบริการลูกค้า และการประเมินความเสี่ยง [3, 16]. การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (facial recognition) สำหรับกระบวนการ KYC แบบอิเล็กทรอนิกส์ และการเฝ้าระวังธุรกรรมแบบเรียลไทม์ จะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ [3].
- ภาคค้าปลีกและ E-commerce: Chatbots ที่ขับเคลื่อนด้วย AI และระบบแนะนำสินค้าที่อิงตาม AI ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า [3]. การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์จะช่วยให้ผู้ค้าปลีกคาดการณ์อุปสงค์ได้อย่างแม่นยำ ปรับปรุงสินค้าคงคลัง และนำเสนอโปรโมชั่นที่ตรงกับพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละราย [3].
- ภาคการท่องเที่ยว: AI จะช่วยยกระดับประสบการณ์ของนักท่องเที่ยวผ่านการนำเสนอข้อมูลที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล และระบบการจัดการโรงแรมอัตโนมัติ [5]. นอกจากนี้ ยังมีการผลักดันให้พัฒนาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ ที่สอดคล้องกับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง [22].
การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในกลุ่ม SMEs
SMEs ไทยกำลังนำการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมาใช้อย่างกว้างขวาง โดย 100% ของ SMEs ไทยได้ย้ายการดำเนินงานออนไลน์ ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก [7]. การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ เช่น Facebook Apps และเครื่องมือชำระเงินดิจิทัล ได้ช่วยให้ธุรกิจปรับตัวและเข้าถึงลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น [7]. SMEs จำนวนมากยังใช้ระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้า (CRM) และโซลูชันด้าน IT ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน [7]. ความเชื่อมั่นในผลประโยชน์ระยะยาวของการเปลี่ยนแปลงดิจิทัลสูงถึง 96% ในกลุ่ม SMEs ไทย [7].
ภาพรวมเศรษฐกิจไทยปี 2568 และปัจจัยขับเคลื่อน
คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตในระดับปานกลางในปี 2568 โดยมีอัตราการเติบโตประมาณ 2.5% - 2.6% [4, 8]. ภาคการท่องเที่ยวเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลัก โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ 39.4 ล้านคนในปี 2568 [4]. การบริโภคภาคเอกชนคาดว่าจะขยายตัว 3.0% โดยได้รับแรงหนุนจากสภาวะตลาดแรงงานที่ดี อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ และรายได้ที่เพิ่มขึ้น [6]. การลงทุนภาครัฐมีการฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่ง [6].
อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจไทยยังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ:
- การส่งออก: คาดว่าจะเติบโตในอัตราที่ช้าลง เนื่องจากความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง และความเสี่ยงจากนโยบายการค้าของสหรัฐฯ (Trumponomics 2.0) ซึ่งอาจลดการส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ ลง 5-10% [4, 19, 22].
- อุปสงค์ภายในประเทศ: การบริโภคภาคเอกชนมีแนวโน้มอ่อนแอลง โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าคงทน และยอดขายรถยนต์ที่หดตัว [4].
- หนี้ครัวเรือน: ยังคงเป็นปัจจัยกดดันที่สำคัญ [19].
- การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน: ส่งผลกระทบต่ออุปสงค์สินค้าไทยและจำนวนนักท่องเที่ยวจีน [19].
- ต้นทุนการดำเนินงานที่สูง: เป็นปัจจัยกดดันภาคธุรกิจ [4].
แนวโน้มในไตรมาสถัดไป
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนหลัก อย่างไรก็ตาม ปัจจัยภายนอก เช่น นโยบายการค้าโลก และความผันผวนทางภูมิรัฐศาสตร์ จะยังคงส่งผลกระทบต่อการส่งออกและภาพรวมการลงทุน การนำ AI และ Digital Transformation มาใช้อย่างมีประสิทธิภาพจะเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน
ปัจจัยเสี่ยงที่ต้องจับตามอง
- นโยบายการค้าของสหรัฐฯ: การเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมอาจส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย [18, 19].
- ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์: ความขัดแย้งระหว่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานและการลงทุน [12, 19].
- การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ: อาจส่งผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวและภาคเกษตร [22].
- ความสามารถในการแข่งขัน: การรักษาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีโลกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง [4].