ธุรกิจ • เศรษฐกิจ • เทคโนโลยี
ไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน: นวัตกรรมสีเขียวและการลงทุนแห่งอนาคต
ประเทศไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความยั่งยืน โดยรัฐบาลและภาคเอกชนร่วมมือกันผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและสังคม ผ่านการส่งเสริมนวัตกรรมสีเขียว การลงทุนที่ใส่ใจ ESG และการปรับตัวเชิงกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
ไทยเร่งเครื่องเศรษฐกิจสีเขียว: มุ่งสู่ความยั่งยืนด้วยนวัตกรรมและ ESG
ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยรัฐบาลและภาคเอกชนได้ผนึกกำลังเพื่อขับเคลื่อนประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง โดยให้ความสำคัญกับการลงทุนในเทคโนโลยีสีเขียว (Green Tech) และแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นการตอบสนองต่อกระแสโลก แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยั่งยืนในระยะยาว.
การผลักดันนวัตกรรมสีเขียวและสตาร์ทอัพ
หน่วยงานภาครัฐ อาทิ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่มีศักยภาพด้านความยั่งยืน โดยมุ่งเน้นไปที่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (AI) พลังงาน และการจัดการคาร์บอน. เป้าหมายคือการบ่มเพาะให้เกิด "ยูนิคอร์น" (Unicorn) หรือสตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างน้อย 1-2 รายภายในสามปีข้างหน้า. การเติบโตของตลาดเทคโนโลยีสีเขียวและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนคาดว่าจะสูงถึง 73.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2030.
ทิศทางการลงทุน ESG และกองทุนไทย
แนวโน้มการลงทุนด้าน ESG ในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยในปี 2567 มีกองทุน ESG ของไทยถึง 53 กองทุน มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตขึ้นเกือบ 400% จากปีก่อนหน้า. กองทุนประเภทตราสารหนี้เป็นที่นิยมและให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 6.4% ในปี 2567. รัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่สนับสนุนสังคมคาร์บอนต่ำ อาทิ การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี เพื่อกระตุ้นการลงทุนในกองทุน ESG.
นโยบายภาครัฐกับการขับเคลื่อนความยั่งยืน
ประเทศไทยมีเป้าหมายในการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065. เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ นโยบายด้านการพลังงานทดแทนถูกผลักดันอย่างจริงจัง โดยแผนพัฒนาพลังงานทดแทนฉบับล่าสุดตั้งเป้าเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 36% ภายในปี 2037. นอกจากนี้ พระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ. สิ่งแวดล้อม กำลังจะเข้มงวดกับภาคอุตสาหกรรมมากขึ้นในเรื่องการปล่อยมลพิษ การบำบัดน้ำเสีย และการจัดการของเสีย.
โอกาสทางธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และโครงสร้างพื้นฐาน
ในภาคอสังหาริมทรัพย์ แนวโน้ม ESG ในปี 2567 ชี้ให้เห็นถึงความต้องการอาคารสำนักงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มสูงขึ้น โดย 96% ของผู้เช่าสำนักงานตั้งเป้าที่จะมีพอร์ตอาคารที่ได้รับการรับรองสีเขียว 100% ภายในปี 2030. อีกทั้ง 80% คาดว่าความต้องการพลังงานจะมาจากพลังงานหมุนเวียน.
การพัฒนาที่ยั่งยืนและเป้าหมาย SDG
ประเทศไทยได้รับการยอมรับในระดับอาเซียนในฐานะผู้นำด้านการพัฒนาที่ยั่งยืนติดต่อกันเป็นปีที่หก. นายกรัฐมนตรีได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในการสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ยืดหยุ่นและยั่งยืน โดยใช้โมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (BCG Model). นอกจากนี้ ประเทศไทยยังมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้ง 17 ข้อ (SDGs) ของสหประชาชาติภายในปี 2030.
อุตสาหกรรมท่องเที่ยวกับการขับเคลื่อนความยั่งยืน
ภาคการท่องเที่ยวของไทยกำลังก้าวสู่ยุคใหม่ด้วยการให้ความสำคัญกับความยั่งยืน โดยมีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Letter of Intent) เพื่อเร่งรัดการบรรลุเป้าหมายการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน (Sustainable Tourism Goals - STGs) ภายในปี 2030. แผนการท่องเที่ยวสีเขียวของประเทศไทย (Thailand Green Tourism Plan 2030) ได้รวมถึงการรับรองมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ระบบการตรวจคนเข้าเมืองแบบดิจิทัล และการขนส่งคาร์บอนต่ำ.
แนวโน้มในอนาคต
การให้ความสำคัญกับ ESG และเทคโนโลยีสีเขียวเป็นมากกว่าแค่กระแส แต่เป็นทิศทางที่ชัดเจนของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภาคธุรกิจที่ปรับตัวและลงทุนในแนวทางที่ยั่งยืน จะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดและมีบทบาทสำคัญในการสร้างอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองและรับผิดชอบของประเทศไทย
---
ประเทศไทยกำลังแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ผ่านนโยบายที่แข็งแกร่ง การส่งเสริมนวัตกรรม และการลงทุนที่ใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม การประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานสากล จะเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันให้เศรษฐกิจไทยเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ท่ามกลางความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงของโลกในปัจจุบันและอนาคต.