เทคโนโลยี • ธุรกิจ • AI
AI และ Digital Transformation: ขับเคลื่อนธุรกิจ SME ไทย สู่ความยั่งยืนและโอกาสในปี 2025
บทความนี้จะสำรวจแนวโน้มสำคัญของ AI และ Digital Transformation ที่จะส่งผลต่อธุรกิจ SME ไทยในปี 2568 โดยเน้นการนำเทคโนโลยีมาเพิ่มประสิทธิภาพ สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน และขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน รวมถึงโอกาสในการลงทุนในเทรนด์สีเขียวและภูมิทัศน์กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ
AI ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน: โอกาสการลงทุน เทรนด์สีเขียว และภูมิทัศน์กฎหมายที่กำลังเปลี่ยนแปลงAI และ Digital Transformation: ขับเคลื่อนธุรกิจ SME ไทย สู่ความยั่งยืนและโอกาสในปี 2025
ประเด็นสำคัญที่ต้องวิเคราะห์คือ การที่ธุรกิจ SME ไทยจะต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อก้าวให้ทันยุคที่ 3 ของ AI และ Digital Transformation ซึ่งกำลังจะมาถึงในปี 2025. ยุคนี้จะเป็นปีแห่งการเริ่มต้นใหม่สำหรับองค์กรทุกขนาด ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดใหญ่ SME หรือสตาร์ทอัพ การผสาน AI เข้ากับธุรกิจอย่างชาญฉลาดจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและเปิดโอกาสสู่การเติบโตครั้งใหม่ในอนาคต.
แนวโน้มสำคัญสำหรับ SME ไทยในปี 2025
- การประยุกต์ใช้ AI และ IoT: AI และ IoT จะถูกนำมาใช้เพิ่มขึ้นในธุรกิจต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน. องค์กรในไทยกว่า 55% พึ่งพานวัตกรรมดิจิทัลเพื่อเพิ่มกำไร และ 76% เห็นว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความยั่งยืน. ตัวอย่างการนำไปใช้ ได้แก่ การใช้ AI สำหรับแชทบอทในบริการลูกค้า และ IoT ในโรงงานอัตโนมัติ.
- การเติบโตของ E-commerce: SME จะเน้นการใช้ e-commerce มากขึ้น เพื่อเข้าถึงลูกค้าออนไลน์. การค้าออนไลน์จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยข้อมูลคาดการณ์ว่าการใช้ข้อมูลมือถือจะเพิ่มขึ้น สนับสนุนการค้าออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งช่วยให้ SME ขยายตลาดได้.
- ความปลอดภัยไซเบอร์: ความปลอดภัยไซเบอร์จะมีความสำคัญมากขึ้น เนื่องจากภัยคุกคามดิจิทัลมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น.
- ธุรกิจสีเขียวและความยั่งยืน: ธุรกิจที่ปรับตัวสู่การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับความสนใจมากขึ้น ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และต้องการผลิตภัณฑ์จากธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม. การนำเทคโนโลยีสีเขียวมาใช้ เช่น พลังงานหมุนเวียน การรีไซเคิล และการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายและสร้างภาพลักษณ์ที่ดี. AI เองก็มีศักยภาพในการช่วยแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ แต่การบริหารจัดการพลังงานของศูนย์ข้อมูล AI ก็เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องคำนึงถึง.
- การเรียนรู้และพัฒนาทักษะ: โลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วทำให้การเรียนรู้ตลอดชีวิตเป็นสิ่งจำเป็น แพลตฟอร์มคอร์สเรียนออนไลน์ในสาขาที่เป็นที่ต้องการ เช่น การตลาดดิจิทัล Data Science หรือการเขียนโปรแกรม ยังคงได้รับความนิยม รวมถึงธุรกิจจัดอบรมเพื่อพัฒนาทักษะเฉพาะทาง (Upskill/Reskill).
AI Transformation: โอกาสและบทบาทสำคัญ
AI ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีที่มาแล้วผ่านไป แต่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่สร้างโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญ. ในปี 2025 เทคโนโลยี AI ได้ก้าวสู่จุดเปลี่ยนสำคัญที่ส่งผลต่อโลกธุรกิจอย่างมหาศาล. รายงานคาดการณ์ว่า AI จะกลายเป็นปัจจัยหลักที่เปลี่ยนวิธีดำเนินธุรกิจ. แนวโน้มเทคโนโลยี AI ที่มีอิทธิพลต่อภาคธุรกิจ ได้แก่ Agentic AI (AI ที่ทำงานแทนมนุษย์ได้เอง), AI Copilot (ผู้ช่วย AI), และ Generative AI.
AI มีบทบาทในการเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน. 70% ของ SME ไทยได้เริ่มนำ AI มาใช้แล้วหรือกำลังทดลองใช้งาน. AI สามารถช่วยแนะนำสินค้าให้ลูกค้าอัตโนมัติ วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำเสนอสินค้าที่ตรงกับความต้องการ เพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความประทับใจ. การนำ AI มาใช้ในงานหลังบ้าน เช่น การจัดการระบบ การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการพัฒนาโมเดลธุรกิจ จะช่วยให้เกิดความแตกต่างและขยายธุรกิจในระยะยาวได้.
ความท้าทายและทิศทางสำหรับ SME ไทย
แม้ว่า AI จะมีศักยภาพสูง แต่ SME ไทยยังคงเผชิญความท้าทาย เช่น การขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI, ข้อจำกัดด้านกฎหมาย PDPA ที่ส่งผลต่อการใช้ข้อมูล, วัฒนธรรมองค์กรที่ไม่กล้าลงทุน, และ Ecosystem ที่ยังไม่เอื้อต่อ AI Startup. นอกจากนี้ งบประมาณที่จำกัดในการนำเทคโนโลยีมาใช้ และความยากลำบากในการประเมินผลลัพธ์ของการใช้งานเทคโนโลยีใหม่ ก็เป็นอุปสรรคสำคัญ.
ดังนั้น ทิศทางเร่งด่วนสำหรับ SME ไทย คือ การเปลี่ยนวิธีคิดโดยเริ่มจาก Pain Point ของธุรกิจ, การสร้าง AI Engineer ที่ลงมือทำได้จริง, การปลดล็อกการใช้ข้อมูลด้วยเทคโนโลยี, การได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐในการลงทุน, และการที่ CEO ต้องเป็นเจ้าของ AI Transformation โดยตรง. การทำความเข้าใจว่าอินเทอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอย่างไร จะช่วยให้เข้าใจผลกระทบของ AI และหลีกเลี่ยงความผิดพลาดในอดีตได้.
ผลกระทบต่อคู่แข่ง: ธุรกิจที่นำ AI และ Digital Transformation มาปรับใช้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง ทั้งด้านต้นทุนที่ต่ำกว่า การตอบสนองต่อลูกค้าที่เร็วกว่า หรือการนำเสนอผลิตภัณฑ์/บริการที่นวัตกรรมกว่า ในทางกลับกัน บริษัทที่ชะล่าใจหรือไม่ลงทุน อาจตามหลังคู่แข่งและสูญเสียส่วนแบ่งตลาดอย่างรวดเร็ว.
มุมมองสำหรับผู้บริโภค: ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากสินค้าและบริการที่ตอบสนองความต้องการได้ดียิ่งขึ้น มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น จากการนำ AI มาใช้ในธุรกิจต่างๆ นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังให้ความสำคัญกับธุรกิจที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทำให้ธุรกิจสีเขียวมีโอกาสเติบโตและได้รับการสนับสนุนจากผู้บริโภค.