AI ขับเคลื่อนธุรกิจไทย: โอกาสทองที่มาพร้อมความเสี่ยงไซเบอร์ที่ต้องรู้!

AI ขับเคลื่อนธุรกิจไทย: โอกาสทองที่มาพร้อมความเสี่ยงไซเบอร์ที่ต้องรู้!

การนำ AI มาใช้ในภาคธุรกิจของไทยกำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะในกลุ่ม SMEs ที่มองหาความได้เปรียบทางการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม การเติบโตนี้มาพร้อมกับความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เข้มข้นขึ้น บทความนี้จะเจาะลึกถึงโอกาสที่ AI มอบให้ และภัยคุกคามที่ธุรกิจไทยต้องตระหนัก พร้อมแนวทางการป้องกันที่สำคัญ

AI ขับเคลื่อนธุรกิจไทย: โอกาสทองที่มาพร้อมความเสี่ยงไซเบอร์ที่ต้องรู้!


กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – ในยุคที่เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจไทย การนำ AI มาปรับใช้ในองค์กรต่างๆ ทั่วประเทศกำลังเป็นที่นิยมอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ที่มองหาความได้เปรียบในการแข่งขันและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน [10, 11, 14, 16]

โอกาสจาก AI: ประตูสู่การเติบโตที่เหนือกว่า


AI ไม่ได้เป็นเพียงแค่เทคโนโลยีแห่งอนาคตอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถ:

  • เพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน: AI สามารถทำงานซ้ำๆ ได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ ช่วยลดภาระงานของพนักงาน และลดความผิดพลาด ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดต้นทุนการดำเนินงาน [11, 16]
  • สร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน: การนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล การตัดสินใจ หรือการปรับปรุงกระบวนการผลิต สามารถช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัวและตอบสนองต่อตลาดได้ดียิ่งขึ้น [10, 11]
  • พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ: AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ ที่ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น เช่น การนำเสนอสินค้าที่ปรับให้เหมาะกับแต่ละบุคคล (Personalization) ในธุรกิจ E-commerce หรือการใช้ AI ช่วยวินิจฉัยโรคในภาคการแพทย์ [11]
  • เข้าถึงตลาดใหม่: เทคโนโลยี AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายขอบเขตการดำเนินงานไปสู่ตลาดใหม่ๆ ได้ง่ายขึ้น เช่น การใช้ AI ในการแปลภาษาเพื่อสื่อสารกับลูกค้าทั่วโลก [11]

ที่ผ่านมา มีการประเมินว่า AI มีศักยภาพที่จะสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้กับประเทศไทยได้ถึง 2.6 ล้านล้านบาทภายในปี 2030 [22] และคาดว่าตลาด AI ในไทยจะเติบโตถึง 1.14 แสนล้านบาทภายในปี 2030 [11]

ความท้าทายด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์: ภัยเงียบที่ต้องระวัง


แม้ว่า AI จะมอบโอกาสมหาศาล แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายใหม่ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากังวลอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจไทยในปัจจุบัน

คำเตือน: จำนวนภัยคุกคามทางไซเบอร์มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการโจมตีที่ใช้ AI เป็นเครื่องมือ [9, 13, 21, 23]

  • AI-driven Cyber Attacks: อาชญากรไซเบอร์กำลังใช้ AI ในการพัฒนาวิธีการโจมตีที่ซับซ้อนยิ่งขึ้น เช่น การสร้าง Malware ที่ตรวจจับได้ยากขึ้น, การทำ Credential Stuffing หรือการใช้ Bot ควบคุมการโจมตีแบบ DDoS [9, 21, 23]
  • Deepfakes: เทคโนโลยี Deepfake กำลังแพร่หลายมากขึ้น ไม่ใช่แค่การสร้างวิดีโอปลอม แต่ยังรวมถึงการเลียนแบบเสียง ซึ่งสามารถนำไปใช้หลอกลวงเพื่อผลประโยชน์ทางการเงิน เช่น กรณีที่พนักงานบริษัทแห่งหนึ่งในฮ่องกงถูกหลอกให้โอนเงินจำนวนมากจากการประชุมเสมือนจริงที่ใช้ Deepfake [21, 23]
  • Data Breaches: ข้อมูลรั่วไหลยังคงเป็นปัญหาใหญ่ โดยมีรายงานการละเมิดข้อมูลในบริษัทไทยหลายแห่ง ซึ่งข้อมูลที่ถูกขโมยไปมักถูกนำไปขายต่อใน Dark Web [5, 19]
  • Ransomware: การโจมตีด้วย Ransomware ยังคงเป็นภัยคุกคามที่สำคัญ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมการผลิต [24]
  • ช่องโหว่จาก IoT และ Cloud Computing: การใช้งานอุปกรณ์ IoT ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลา และการใช้งาน Cloud Computing ที่เพิ่มขึ้น ก็เป็นการเปิดช่องโหว่ให้แฮกเกอร์เข้าถึงระบบได้ง่ายขึ้น [13]

จากข้อมูลของ National Cyber Security Agency (NCSA) พบว่าในช่วง 5 เดือนแรกของปี 2025 มีเหตุการณ์การโจมตีทางไซเบอร์เกิดขึ้นในไทยกว่า 1,002 เหตุการณ์ [9] และกว่า 63% ขององค์กรในไทยประสบปัญหาข้อมูลรั่วไหล [9]

การเตรียมพร้อมรับมือ: ยุทธศาสตร์สำคัญสำหรับธุรกิจไทย


เพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ ธุรกิจไทยควรให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ดังนี้:

  • การยกระดับความตระหนักรู้: ผู้บริหารและพนักงานทุกคนต้องเข้าใจถึงภัยคุกคามทางไซเบอร์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น [9, 13]
  • การลงทุนในเทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย: การนำโซลูชัน Cybersecurity ที่ทันสมัยมาใช้ เช่น ระบบตรวจจับและป้องกันการบุกรุกที่ขับเคลื่อนด้วย AI (AI-based intrusion detection and prevention systems) [13]
  • การพัฒนาทักษะบุคลากร: การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะด้าน Cybersecurity เป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไข ทั้งการฝึกอบรมภายในองค์กร และการสนับสนุนการพัฒนาทักษะของพนักงาน [13, 22]
  • การมีแผนรับมือเหตุการณ์ (Incident Response Plan): ทุกองค์กรควรมีแผนที่ชัดเจนในการรับมือและฟื้นฟูเมื่อเกิดเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์
  • การติดตามกฎหมายและข้อบังคับ: ประเทศไทยกำลังพัฒนากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ AI ซึ่งอาจมีข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่ต้องปฏิบัติตาม [2, 3, 4, 7, 8] การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎหมายเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น

วิธีป้องกันที่ง่ายที่สุดคือ: การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ให้ความสำคัญกับ Cybersecurity ในทุกระดับชั้น ตั้งแต่ผู้บริหารระดับสูงไปจนถึงพนักงานทั่วไป การลงทุนอย่างต่อเนื่องในเทคโนโลยีและบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยไซเบอร์ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มที่ พร้อมทั้งป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่นับวันจะยิ่งซับซ้อนมากขึ้น